***ขอแจ้งรีดเดอร์ค่ะ ^^
คือนิยายเรื่องนี้ใกล้จะจบแล้ว
และคาดว่านักเขียนโนเนมฝึกหัดอย่างติ๊กก็คงทำเป็นหนังสือทำมืออีกเช่นเคย
งบน้อยก็คงพิมพ์เท่าจำนวนที่สั่งจองค่ะ
ก็อยากจะแจ้งคนอ่านเอาไว้ค่ะ
เผื่อมีคนสนใจอยากจะอุดหนุน ^^
เริ่มหยอดกระปุกได้แล้วค่า
ถ้าจบแล้วรีไรท์แล้วก็คงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ***
ตอนที่ 26 _ 30% _ little
‘พี่พงศ์คะ
เราอย่าเพิ่งมีอะไรกันเลยนะคะ
วีณาอยากให้คืนวันแต่งงานของเราเป็นคืนที่น่าจดจำและหอมหวานที่สุดค่ะ’
น้ำเสียงออดอ้อนกับแววตาจริงจังทำไมช่างดูเหมือนทำร้ายจิตใจเขาเสียเหลือเกิน
พงศธรพาหญิงสาวมาที่ห้องเพื่อปรึกษากันเรื่องต่างๆ
แต่เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะเพิ่มเรื่องให้เขาคิดอีกหนึ่งเรื่อง ตาคมจ้องมองใบหน้านวลที่ฉายแววกังวลและเก้อเขินออกมาเมื่อเขาไม่ตอบคำถาม
‘ทำไมผมจะต้องยอมด้วย ในเมื่อเราก็จะแต่งงานกันอยู่และอีกอย่างที่สำคัญ
ถือว่าคุณเป็นภรรยาของผมถูกต้องตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
จะมัวเสียเวลากันอยู่อีกทำไม’
ใช่แล้ว...เขาและเธอจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อย
เพื่อจะได้ไม่ถูกครหาหากเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ขึ้นมา
ตาคมหรี่ลงก่อนจะเค้นถามวีณาเสียงเข้ม
‘ผมว่าคุณไม่ได้คิดเอง ใครสอนคุณให้คิดแบบนี้’
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว ‘โห พี่พงศ์ฉลาดจริงๆ แง...ใครว่าไม่ได้คิดเองละคะ
คิดอยู่เหมือนกันค่ะแต่ไม่กล้าพูด’
เธอคิดในใจก่อนจะทำหน้าออดอ้อนตอบกลับไปอย่างไม่นิ่งนอนใจ
‘พี่กระติกบอกค่ะ’ เมื่อเห็นว่าเขาชะงักจึงรีบพูดต่อทันที
‘ก็พี่กระติกเห็นว่าคืนแต่งงานมันน่าจะเร่าร้อน
หอมหวานและเร้าใจ ถ้าอดเปรี้ยวไว้กินหวานน่ะค่ะพี่พงศ์ ซึ่งวีณาก็เห็นด้วย’
‘แต่...’ พงศธรจะค้าน
‘แต่วีณาก็ไม่ได้บอกว่าบทเรียนที่พี่พงศ์จะสั่งสอน
จะพร่ำสอนกันก่อนเราแต่งงานไม่ได้นี่คะ’ มือเรียวยกขึ้นลูบหน้าอกแกร่ง
ก่อนจะส่งสายตาเย้ายวนให้อีกฝ่ายทนแทบไม่ไหว
‘หรือว่าไม่จริง’ เสียงหวานเอ่ยทิ้งท้าย
ชายหนุ่มจ้องเข้าไปในดวงตาหวานฉ่ำของหญิงสาว
แม้ไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่อยากขัดใจ
อดเปรี้ยวไว้กินหวานก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยแม้แต่น้อย
ถ้ามันจะทำให้ว่าที่เจ้าสาวที่เขารักพอใจ พงศธรก็ยินดีจะทำให้ได้เสมอ
จะว่าไปแล้วเขาไม่อยากจะเชื่อว่าน้องสาวหัวแก้วหัวแหวนที่แสนดีของเขาจะเป็นคนคิดเรื่องแบบนี้
แต่เขาออกจะเชื่อเลยละว่าคนที่คิดเรื่องทรมานเขาได้เช่นนี้คือไอ้หมาบ้าอนาคินเพียงคนเดียวเท่านั้น
ปัดเรื่องแก้แค้นออกไปก่อนยังไม่สาย
ที่สำคัญในตอนนี้คือเร่งรัดสอนหลักสูตรให้สาวน้อยจอมยั่วยวน
พงศธรรั้งร่างบางเข้ามาหา กดจุมพิตเร่งเร้าอย่างไม่ให้หญิงสาวตั้งตัว
วีณาตัวแข็งอย่างตกใจกับการจู่โจมอย่างรวดเร็วแต่ก็หลับตาพริ้มตวัดเรียวแขนโอบกอดร่างแกร่ง
กดริมฝีปากบางหวานฉ่ำเข้าหาอย่างไม่รังเกียจรังงอน
เสียงครางอย่างถูกใจของชายหนุ่มดังขึ้น
สอดแขนแข็งแรงยกร่างเล็กให้ลอยขึ้นเหนือพื้น
พาเดินเข้าไปในห้องนอนสานต่อบทเรียนอย่างผู้ทรงภูมิ ถ่ายทอดวิชาให้อย่างหมดเปลือก
แม้จะได้ไม่ถึงที่สุดแต่ก็ยังไม่ได้อดทั้งหมดถือว่าน้องน้อยของเขาก็ไม่ใจร้ายจนเกินไปนัก...
ร่างบางที่นอนเหยียดกายอยู่บนที่นอนหลังใหญ่
ยื่นมือเรียวแตะที่ต้นแขนแข็งแรงภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว ลูบไล้ไปมาอย่างเพลิดเพลิน
‘กล้ามแน่นดีจริงๆ พี่พงศ์
ขนาดอยู่ใต้เสื้อผ้ายังน่ากินขนาดนี้ เวลาถอดเสื้อแต่ละทีไม่อยากจะพูดเลย
เลือดกำเดาไหลแทบจะหมดตัว มีแฟนแบบพี่พงศ์เนี่ย ทั้งหล่อ ทั้งรวย อ้อ..สำคัญสุดคือ
ทั้งหื่น อ๊ายๆๆ ไอ้วีณาแกคิดอะไรอยู่เนี่ย โอ๊ย! กุลสตรีหน่อยสิยะ
เก็บอาการๆ’
“พี่พงศ์เหนื่อยมั้ยคะ”
พงศธรเลิกคิ้วอย่างสงสัยในคำถาม
“ถามแบบนี้หมายความว่ายังไงวีณา”
“อ้าว
ก็วีณาเห็นพี่ทำงานหนัก ก็เลยถามตามหน้าที่แฟนที่ดีว่าทำงานเหนื่อยหรือเปล่าคะ
หิวมั้ย ต้องการคนบีบนวดตัวหรือเปล่า ประมาณนั้นค่ะ ทำไมเหรอคะพี่” หญิงสาวอธิบาย
“ผมก็นึกว่าคุณจะถามหยั่งเชิง”
“หยั่งเชิงอะไรคะ”
ถามด้วยความงง
“ก็หยั่งเชิงว่าตอนนี้มีแรงทำเรื่องอื่นหรือเปล่า
ยังไหวมั้ยไงล่ะ”
“อ๊าย!!! คนบ้า” มือเรียวฟาดเข้าให้ที่ต้นแขนหนา
“เอ้า ก็ใครจะไปรู้ล่ะ
เห็นลูบแขนนึกว่า...”
“โห ถ้าวีณาจะชวนพี่พงศ์นะ
ไม่ลูบแขนถูเป็นขูดเลขขอหวยหรอกค่ะ”
“แล้วจะทำยังไง”
เสียงทุ้มถามขึ้น เพราะปกติเขาไม่เคยเปิดโอกาสให้หญิงสาวเป็นฝ่ายเชิญชวนก่อนเลย
“มันพูดยากนะคะ
เอาเป็นสาธิตเลยดีกว่า”
วีณาลุกขึ้นเปลี่ยนจากท่านอนเป็นท่านั่งคุกเข่า
วันนี้เธอใส่ประโปรงยาวกรอมเท้าเสื้อยืดคอกลมพอดีตัวสีขาว
ร่างบางเข้าประชิดชายหนุ่มมือเรียวลูบไล้ที่ไหล่หนาก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบไหล่เบียดอกอวบล้นเข้าหาใกล้ชิด
จมูกดอมดมกลิ่นหอมแบบผู้ชายแต่ไม่ได้ให้จมูกสัมผัสซอกคอโดยตรง ตากลมสังเกตเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไป
มือเรียวอีกข้างที่ไม่ได้โอบไหล่หนาเอาไว้ลูบเข้าที่หน้าอกแกร่ง
นิ้วปัดผ่านจุดที่ทำให้กายชายแทบทนไม่ไหว หญิงสาวลูบไล้ลงสู่เบื้องล่าง ความเร็วเช่นนี้ทำเอาชายหนุ่มเสียววูบ
แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดตอนนี้วีณาหยิบเอาแฟ้มข้อมูลออกไปจากมือและตักของพงศธรเรียบร้อยแล้ว
เสียงโยนเอกสารปึกหนาไปข้างเตียงเรียกสติที่จดจ่ออยู่กับการกระทำเล็กๆ น้อยๆ
ที่ทำเอาเลือดลมพล่านไปทั่วกายให้คืนกลับมา
แล้วเขาก็ต้องเปล่งเสียงอย่างถูกใจในลำคอเมื่อนักเรียนตัวน้อยของเขาที่ริอ่านจะวัดรอยเท้าอาจารย์
เปลี่ยนจากท่านั่งคุกเข่าโอบเขาเอาไว้เป็นตวัดเรียวขาคร่อมตักแล้วค่อยๆ
รูดลำตัวหอมกรุ่นลงมาผ่านสายตาที่มองอย่างหิวกระหายช้าๆ
หน้าอกอวบที่เคลื่อนผ่านตรงหน้าเขารู้ว่ามันเต่งตึงและหอมหวนแค่ไหนยามที่อุณหภูมิของร่างกายทั้งเขาและเธอเร่าร้อน
หญิงสาวประคองใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ก่อนจะค่อยๆ
โน้มใบหน้าเข้าหา ริมฝีปากสีชมพูอ่อนหวานล้ำเอียงเข้าหาริมฝีปากหนา
มือหนากำไว้ข้างตัวยังไม่แตะต้องร่างบางปล่อยให้โชว์ฝีมือให้เต็มที่
ซึ่งก็ได้ผลเสียจนเขาอยากจะผิดคำขอร้องของว่าที่เจ้าสาวเขาเสียเหลือเกิน
ลมหายใจอุ่นรินรดที่ใบหน้าคมก่อนจะเปลี่ยนทิศฉกวูบเข้าที่ซอกคอ ลิ้นเล็กไล้เลียแผ่วเบา
ขบเม้มอย่างย่ามใจ
เสียงคำรามของชายหนุ่มดังขึ้นสลับกับเสียงหวีดร้องอย่างตกใจของหญิงสาว
ซึ่งตอนนี้สลับบทบาทกันเรียบร้อยแล้ว ร่างบางที่นอนหงายอยู่บนที่นอนมีชายหนุ่มคุกเข่าอยู่อย่างหมิ่นเหม่
เมื่อกระโปรงบานเปิดถลกไปจนเห็นโคนขาอ่อนเรียวขาพาดอยู่กับหน้าขาของชายหนุ่ม
“โห พี่พงศ์คะ วีณายังชวนไม่เสร็จเลยค่ะ”
เธอบ่นเล็กน้อยแต่ก็ต้องฉีกยิ้มเต็มที่เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตอบโต้
“ถ้ารอให้ชวนเสร็จ
รับรองเลยว่าคืนนี้คุณไม่รอดพ้นอย่างทุกครั้งแน่ๆ เพราะฉะนั้นอย่าบ่น”
อิหนูวีณายั่วเหลิอเกิน