• Love under the sky. ตอนที่ 01

    ตอนที่1
      
                   อาการมึนศีรษะเสียจนไม่สามารถลืมตาได้อย่างสดชื่นเหมือนปกติ ทำให้แทนไทต้องครางออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาเอามือกุมศีรษะเอาไว้ก่อนจะพยายามยันตัวเองขึ้นนั่ง เมื่อคืนเขาจำได้ว่าไปนั่งดื่มเหล้าที่ร้านประจำตังแต่หัววันจะเรียกว่าเป็นลูกค้ารายแรกของร้านก็ว่าได้ แทนไทลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ความรู้สึกที่ว่าแสงแดดมันช่างโหดร้ายก็เพิ่งรู้สึกในวันนี้นี่เอง

                “อ้าวพ่อหนุ่ม ตื่นแล้วเหรอ ลุกขึ้นมาไหวไหมล่ะ”

                ภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ เหมือนคนญี่ปุ่นหัดพูดไทยเรียกให้แทนไทต้องเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำถาม ก่อนจะต้องเบิกตากว้างสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นชายชาวญี่ปุ่นหน้าตาดีมากมองจ้องเขาอยู่แล้วในระยะประชิด

                “เอ่อ ผม...”

                “อ๋อ คุณเมาน่ะแล้วลูกของผมก็เลยเก็บคุณกลับมาด้วย” ฟังคำถามยังไม่ทันจบก็ชิงตอบเสียแล้ว

                “เก็บ...เหรอครับ?” แทนไทชักทะแม่งๆ กับคำพูดของอีกฝ่ายหรือนี่เขาเมาจนฟังไทยต้องแปลไทยอีกรอบกันนะ

                “ใช่...เก็บ”

              คิโต้มั่นใจว่าเขาใช้คำถูกต้อง เพราะท่าทางเมื่อคืนของลูกสาวกับอาการของพ่อหนุ่มที่เพิ่งสร่างเมาคนนี้มันน่าที่จะใช้คำนี้นี่นา และอีกอย่างเขาเองก็อยู่เมืองไทยมานานนานจนใช้ภาษาไทยได้คล่องราวกับเป็นภาษาบ้านเกิดกันเลยทีเดียว

                แทนไทนั่งอึ้งอยู่กับที่ ท่าทางของผู้ชายตรงหน้าแลดูไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย คนอะไรดูอารมณ์ดีได้ตลอดประเดี๋ยวยิ้มประเดี๋ยวหัวเราะ แล้วความคิดฟุ้งซ่านของคนเพิ่งสร่างเมาก็ต้องหยุดลงเมื่อมีผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาถึงเตียงไม้ริมหน้าต่างที่เขามั่นใจว่าได้อาศัยนอนมาตลอดทั้งคืน

                “คุณคะอย่าถือสาเลยค่ะ คุณคิโต้เขาเป็นคนญี่ปุ่นน่ะภาษาไทยเลยไม่แข็งแรง”

                มีนาเดินเข้ามาหาเมื่อได้เย็นเสียงพูดคุยของผู้ชายสองวัย เมื่อคืนลูกสาวของเธอเรียกบิดาไปแบกผู้ชายคนนี้ลงจากในรถ สอบถามก็ได้ความว่ากำลังไปขอเป็นเพื่อนแต่เขาดันเมาแล้วฟุบหลับไปเลย จะทิ้งไว้ก็กลัวว่าจะถูกปลดทรัพย์กันเสียเปล่าก็เลยจำเป็นต้องทำหน้าที่พลเมืองดีพากลับมาบ้านด้วยเสียเลย

                ตาเรียวคมแฝงแววหวานของมีนามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างชื่นชมอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขายกมือไหว้เธอและสามีหลังจากที่ตั้งสติได้แล้ว มีนาเอื้อมมือเรียวไปคว้าแขนของสามีที่เลิกสนใจชายหนุ่มตรงหน้าหันไปสนใจหนังสือพิมพ์ในมือแทนให้เดินตามไปด้วยกัน ก่อนจะเอ่ยปากชวนคนหนุ่มที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมให้เติมตามไปด้วยกัน

                “ไปทานข้าวเช้าด้วยกันนะคะจะได้สร่างเมา”

                แล้วบรรยากาศในโต๊ะอาหารก็ดำเนินไปอย่างสนุกสนานเมื่อคิโต้เริ่มเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อคืนตอนที่ลูกสาวของเขาขึ้นไปปลุกเขาเมื่อคืน ก่อนจะตามด้วยเรื่องราวสารพัดที่จะหามาพูดคุยทำให้คนแปลกหน้าที่ตื่นขึ้นมาในบ้านคนอื่นอย่างแทนไทรู้สึกคุ้นเคยราวกับเคยอยู่ในบ้านหลังนี้มานานแสนนาน มื้อเช้าที่มีความสุขอบอุ่นกับกาแฟเข้มๆ แก้วโตเตรียมความพร้อมของร่างกายให้เขาพร้อมกลับไปเผชิญต่อโลกใบเดิมของเขาแล้ว


                “ขอบคุณสำหรับอาหารและการดูแลนะครับน้ามีนา น้าคิโต้” แทนไทกล่าวขอบคุณเมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลากลับบ้านแล้ว

                “ไม่เป็นไรจ้ะ ถ้าจะขอบคุณกันเนี่ย คุณแทนคงต้องไปขอบคุณลูกสาวของน้าละมั้ง รายนั้นน่ะถ้าไม่ตัดสินใจให้คนแบกคุณขึ้นรถกับมาบ้านด้วยนะ ไม่รู้ว่าป่านนี้คุณจะเป็นยังไงบ้าง” มีนาพูดอธิบายก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าทางเหมือนจะถามถึงคนที่เธอเอ่ยถึง

                “ลูกสาวน้ายังไม่ตื่นเลยจ้ะ รายนั้นเขามีชีวิตกลางคืนน่ะ กลางวันนอนหลับพักผ่อน” เอ่ยถึงลูกสาวด้วยท่าทางมีความสุข

                แทนไทสะกิดใจเล็กน้อยถึงน้ำเสียงที่พูดถึงลูกสาวคนที่มีบุญคุณกับเขา น้ำเสียงฟังดูมีความสุขแต่แอบเจือแววเศร้าเอาไว้เล็กๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายด้วยคิดว่าเขาคงคิดไปเองหรือไม่หูก็คงฝาด ครอบครัวเฮฮาขนาดนี้จะมีเรื่องเศร้าได้ยังไงกัน แต่ถ้าเป็นครอบครัวเขาสิไม่แน่

                ชายหนุ่มลากลับไปเอารถที่ถูกจอดทิ้งไว้อยู่ที่ร้านเมื่อคืนที่เขาไปเที่ยว ลังเลเล็กน้อยว่าจะกลับบ้านไปอาบน้ำก่อนหรือว่าจะขับรถไปทำงานเลยทั้งๆ อย่างนี้กัน เสียงโทรศัพท์ติดตามตัวดังขึ้นเป้นเสียงที่แทนไทตั้งเอาไว้สำหรับเบอร์นี้เบอร์เดียวเท่านั้น

                “ครับพ่อ” เสียงนิ่งๆ ตอบรับทันทีเมื่อกดรับสาย

                “ไม่ต้องมาครับ แกอยู่ไหน ทำไมวันนี้ถึงไม่เข้าบริษัท ฉันว่าแล้ว แกน่ะจะกี่ปีกี่เดือนกี่วันก็ไม่มีวันเหมือนคนอื่นเขา ดูสิลูกชายเพื่อนฉันแต่ละคนนะ เขาเข้างานกันตั้งแต่เช้ากลับก็ดึกดื่น บริหารงานกันเก่งกาจ แต่ดูลูกฉันสิ ดูแกสิ อย่าให้ฉันพูดเลย ฉันอายจริงๆ เฮ้อ รีบๆ เข้าบริษัทเข้ามาได้แล้วและก็ถ้ามาถึงแล้วให้แวะเข้ามาหาฉันก่อนล่ะ” เสียงบ่นและคำสั่งยาวเหยียด

                “ครับ”

                คำสั้นๆ ที่รับปากอย่างเคยชิน แทนไทชินเสียแล้วกับคำพูดที่ไม่มีการชมเชยของบิดา อย่างไรเสียเขาเองก็ไม่เคยมีอะไรดีเทียบเท่าลูกชายของเพื่อนๆ ของบิดาเลยแม้แต่คนเดียว ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์เครื่องบางเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินตรงไปที่รถที่จอดหลบมุมอยู่ที่ลานจอดรถเพียงคันเดียวอย่างหงอยๆ


                ชายหนุ่มแหงนมองสถานที่แห่งนี้ที่เขาเองเพิ่งจากออกไปเมื่อตอนกลางวันนี้เอง ตอนนี้สี่ทุ่มแล้วเขากลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากเพิ่งกลับจากการทำงานที่แสนหนักหน่วงกับบิดา งานน่ะไม่เท่าไหร่แต่แรงกดดันยามอยู่ใกล้บุพการีนี่สิที่ทำให้เขาเครียดอยู่ตลอด แทนไทผู้ที่ไม่เคยได้ดั่งใจบิดาอย่างเขาตลอดชีวิตมีแต่ความกดดัน

                “เฮ้อ...”

                “ถอนหายใจเรื่องอะไรน่ะ” เสียงหวานๆ ถามไถ่เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจ

                ยูอิยืนมองเขาอยู่เป็นนานแต่เขาก็ยังไม่รู้สึกตัวว่าถูกมองอยู่ กลับทำท่าทางทอดถอนใจ ถอยหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ายังกับตาแก่ ราวกับคนสูงอายุที่ถูกหวยกินในวันหวยออกเสียเหลือเกิน

                “เฮ๊ย!!!” แทนไทสะดุ้งสุดตัวเมื่อเพิ่งรู้ตัวว่ามีคนยืนอยู่ข้างๆ กาย

                “ฉันว่าคุณนี่ก็ตลกดีนะ เข้าไปนั่งข้างในกันได้แล้ว ฉันเมื่อยขา” ยูอิชวนเข้าไปนั่งข้างในหลังจากที่เธอยืนมองเขาจนเมื่อยขาเต็มทน

                “ผมว่าเราไม่รู้จักกันนะครับ” แทนไทที่ก่อกำแพงขึ้นสูงดังเดิมบอกออกไปเมื่อเห็นว่าผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้พยายามจะชวนเขาเข้าไปนั่ง

                “อ้าว พูดอย่างนี้ก็สวยสิคะคุณแทนไท รู้อย่างนี้เมื่อคืนปล่อยในนอนเมาที่นี่ โดนปลดทรัพย์ให้หมดตัวซะให้เข็ด”

                ยูอิพูดประโยคทิ้งท้ายอย่างโมโห แทนไทที่เดินไปไม่มองเธอเลยชะงักฝีเท้าค้างอยู่กับที่ทันทีเมื่อฟังจบ ก่อนจะต้องขมวดคิ้วหันกลับมามองผู้หญิงญี่ปุ่นพูดไทยปร๋อ ผิวขาวซีดใบหน้ารูปไข่ตากลมโต ใบหน้าไร้เครื่องสำอางโดยสิ้นเชิง จะมีก็แต่ลิปกรอสสีชมพูอ่อนๆ เพียงแค่นั้น

                “อย่าบอกนะว่าเธอน่ะเป็นลูกสาวของน้ามีนากับน้าคิโต้” เสียงเข้มถามออกมาก่อนจะต้องปรับท่าทางเสียใหม่เมื่อได้ยินคำตอบ

                “ใช่และก็ฉันนี่ละนะ ที่ต้องขอร้องให้พนักงานในร้านเนี่ย แบกคุณไปขึ้นรถให้หน่อย เพราะกลัวว่าจะเหลือแต่ตัว” หญิงสาวทำหน้าเซ็งสุดขีด เธอเดินหนีเข้าไปในร้านทันทีโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตั้งตัว

                แทนไทที่รู้ตัวแล้วว่าทำให้ผู้มีพระคุณไม่พอใจก็เดินตามเข้าไปในร้านด้วยอย่างรวดเร็ว

                “คุณ!! หยุดก่อน ผมไม่ได้ตั้งใจ พอดีผมไม่เคยเห็นคุณน่ะ วันนี้ผมก็ไม่ได้เห็น แล้...”

                “แต่เมื่อคืนคุณเห็นฉันแล้ว”

                “ตอนไหน? ผมมั่นใจว่าผมจำคุณไม่ได้”

                “เอาละๆ ช่างมันเถอะ ไม่ต้องพูดถึงมันอีกแล้ว ยังไงตอนนี้คุณก็เห็นฉันแล้วนี่ยังไงล่ะ” ยูอิรีบเปลี่ยนเรื่องพูดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเธอเองเข้าไปแนะนำตัวกับเขาตอนที่เขาเมาอยู่แล้วเขาจะมาจำหน้าเธอได้ยังไงกัน

                เงินเล็กน้อยกับมนุษยสัมพันธ์ที่ดีของเธอทำให้ยูอิได้นั่งในโต๊ะประจำมุมเดิมเหมือนเช่นทุกวัน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นว่าแทนไทยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมนั่งลงโต๊ะเดียวกันกับเธอ

                “นั่งสิคะ นั่งด้วยกัน วันนี้ดีจังเลยมีเพื่อนนั่งด้วยสิ”

                เมื่อเห็นว่าไม่เสียหายและอีกอย่างก็อยากจะแก้ตัวเรื่องที่ทำท่าทางไม่ดีกับเธอด้วย แทนไทจึงเลือกนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว................     

1 ความคิดเห็น:

  1. Nong_nongka กล่าวว่า...

    ต้องเตรียมผ้าซับน้ำตาไหม y_y

แสดงความคิดเห็น