• พรหมเล่ห์รัก (Destiny...I fall in love) ตอนที่ 25 _ 100%


    ตอนที่ 25 _ 100%


                มีคำพูดที่ว่าความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทุกข์มักเข้ามาแล้วอยู่ยาวนานกว่ามากมายหลายเท่าตัวนัก พงศธรเหลือบตามองหญิงสาวที่กำลังส่องกล้องทางไกลอยู่อย่างขะมักเขม้น แทนที่เขาจะได้จู๋จี๋กันอยู่ในห้องกลับต้องมานั่งเฝ้าคอยแอบมองอย่างกับพวกถ้ำมองโรคจิต

                “นี่คุณพาผมมาทำอะไรที่นี่เนี่ยวีณา”

                “แหม มันเป็นภารกิจสำคัญค่ะพี่พงศ์ ดีจริงๆ ค่ะทีแรกนึกว่าต้องขับรถกันไปไกลกว่านี้เสียอีก แต่ดันโชคดีที่บ้านพักของพี่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของพี่กมล” เสียงหวานอธิบาย เธอตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะแอบมาดูว่าพี่ชายสุดหล่อของเธอแอบพาสาวมาที่นี่หรือเปล่า

                ร่างหนากัดฟันกรอด นี่เราถูกยัยตัวแสบหลอกใช้หรือนี่ มันน่านัก

                “พี่พงศ์ดูสิคะ นั่นผู้หญิงใช่มั้ยคะพี่ วีณาเห็นไม่ชัดเลย” วีณายื่นกล้องส่องทางไกลให้พงศธรช่วยดูเพื่อยืนยันอีกทาง

                มือหนารับมาอย่างเสียไม่ได้สายตาจ้องร่างบางอย่างคาดโทษ ดวงตาคมจ้องภาพที่เห็นผ่านกล้องส่องทางไกล มือหนาปรับโฟกัสให้ชัดเจนที่สุด

                “ผู้หญิง สวยเสียด้วยสิ”

                “อ๊าย!! พี่กมลแอบมีแฟนไม่บอกน้อง” วีณาโอดครวญ ส่งสายตางอนๆ ไปยังบ้านพักตากอากาศเบื้องหน้า

                “ผมว่าเขาน่าจะมีเหตุผลของเขานะ กมลรักคุณจะตาย” เสียงทุ้มอธิบายเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวข้างกาย มือหนารั้งร่างบางเข้ามากอดกระชับเบาๆ

                “เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ผมเชื่อว่ากมลรักน้องสาวคนนี้ไม่แพ้ที่คุณรักเขาหรอก เชื่อผมสิ เขาต้องพาไปให้คุณดูหน้าอยู่แล้ว”

                เสียงทุ้มที่คอยปลอบใจเธอทำเอาวีณาน้ำตาซึม ตอนนี้หญิงสาวแค่รู้สึกน้อยใจพี่ชายตัวดีของเธอก็เพียงเท่านั้น สัญญาที่มีให้กันตั้งแต่เด็กว่าทั้งสองคนจะไม่ทิ้งกันและจะไม่มีเรื่องอะไรปิดบังกันและกัน แต่นี่อะไร...ปิดบังกันชัดๆ เรื่องใหญ่ขนาดนี้

                “อย่าคิดว่าเขาปิดบังคุณสิ ลองคิดว่านี่คือของขวัญวันแต่งงานที่ชิ้นใหญ่ที่สุด ใหญ่กว่าของใครเลยเชียวนะ” พงศธรลูบแผ่นหลังของเธออย่างแผ่วเบาราวกับพยายามปลอบใจ ท่าทางอ่อนโยนราวกับต้องการปกป้องของชายหนุ่มทำเอาวีณายิ้มออกมาได้ ร่างบางผละออกอย่างช้าๆ ส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม จดจ้องใบหน้าคมด้วยแววตาหวานปนขอบคุณ

                “ยิ้มอะไร เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวยิ้ม ตกลงคุณเต็มมั้ยเนี่ยวีณา” เขาแซวแถมยังทำหน้าสงสัย

                “ขอบคุณนะคะพี่พงศ์ รักพี่จังเลย”

                คำพูดของหญิงสาวทำเอาพงศธรต้องอมยิ้มแต่ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาอีก มีแค่อ้อมกอดแข็งแรงที่ดึงร่างบางเข้าไปกอดเอาไว้เต็มวงแขน ถ่ายทอดความอบอุ่นและปลอดภัยให้ไปแทนคำสัญญาเป็นคำพูด



                ภายในบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ที่เป็นของครอบครัวเขามาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่นั่งเบียดตัวอยู่ที่เก้าอี้เหมือนว่าถ้านั่งเบียดแบบนั้นแล้วจะตัวเล็กลีบจนเขามองแทบไม่เห็น

                “จะกลัวอะไรนักหนา ไปนอนได้แล้ว เห็นแล้วเกะกะสายตาจริงๆ”

                ร่างบางที่เดินกระฟัดกระเฟียดไปที่ห้องนอนทำเอากมลลอบยิ้มไล่หลัง เขาแทบจะทึ้งผมให้หมดศีรษะเมื่อน้องสาวตัวแสบปิดเครื่องหนี นึกแล้วก็อดห่วงไม่ได้ ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะเจรจาสู่ขอกันเป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็ตาม เขาเองก็อดห่วงวีณาไม่ได้เหมือนเคย แถมพรุ่งนี้ต้องพายัยผู้หญิงปากมากไปโชว์ตัวในฐานะแฟนซะด้วยสิ

                การพนันขันต่อ...ทาสรับใช้ที่ห้ามปริปากบ่นเป็นเวลาหนึ่งเดือน

                “หวังว่าพรุ่งนี้ยัยนี่คงไม่ทำเสียเรื่องนะ”



                รถที่เข้ามาจอดในบริเวณบ้านทำเอาวีณาที่มาถึงบ้านตั้งแต่เช้ามืดลุกขึ้นไปเกาะหน้าต่างส่องดู ท่าทางของหญิงสาวไม่ได้เรียกให้พงศธรที่หลับตาเอนหลังพักเอาแรงอยู่ที่โซฟาตัวหนานุ่มในห้องรับแขกตื่นขึ้นมารับรู้ด้วยเลยแม้แต่น้อย

                “พี่พงศ์คะ พี่กมลมาแล้วค่ะ” หญิงสาวร้องเรียกพลางเขย่าแขนหนา

                เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่เธอคิดว่าคงเหนื่อยจากการขับรถก็จำต้องปล่อยให้เขาหลับไป เมื่อคืนทั้งเขาและเธอไม่ได้นอนหลับยาวๆ เลย มัวแต่พูดคุยเรื่องราวที่อยากรู้และซักถามทำความรู้จักกันให้มากขึ้น งีบหลับไปแค่ไม่ถึงสองชั่วโมงดีก็ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อจะขับรถกลับที่บ้าน วีณาไม่กล้าที่จะหลับทั้งๆ ที่เธอสามารถงีบหลับได้แต่หญิงสาวเลือกที่จะนั่งเป็นเพื่อนคนขับมาจนถึงบ้าน

                ตากลมเบิกค้างเมื่อเห็นสองหนุ่มสาวเดินโอบกันเข้ามาในห้อง ผู้หญิงที่ทำเอาเธอต้องมองเสียตาค้าง ผิวสวย หน้าก็งามดูเฉี่ยวก็ได้จะดูหวานก็ไม่ยั่น

                โห พี่เราเลือกพี่สะใภ้เสียสวยเชียวนะ เอ..แต่สายตาที่มองกันทำไมดูแปลกๆ หว่าหญิงสาวคิดสงสัยในใจ

                “ไงเรา ทำไมมองพี่ค้างอย่างนั้นล่ะ” กมลเหลือบสายตามองไปที่โซฟาข้างๆ กัน เห็นพงศธรนอนหลับอยู่ก็เริ่มคาดคั้นน้องสาวด้วยสายตา

                วีณาทำเป็นเมินก่อนจะยิงคำถามทันที “พี่กมลจะไม่แนะนำพี่สะใภ้หน่อยเหรอคะ”

                “พี่ขอผ่านนะคำขอร้องนี้ หน้าที่ของพี่มีแค่พามาให้เห็นหน้าเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นพี่ขอเวลาก่อน” กมลยักคิ้วให้น้องสาวตัวดี

                “พี่กลับก่อนแล้วกันนะ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รู้จักพี่สะใภ้แสนสวยคนนี้หรอกน่า ยังไงๆ พี่ก็ต้องพาเข้ามาทำความรู้จักกับเราอยู่แล้ว...น้องรัก” กมลทำท่าจะหันหลังกลับไปแต่ก็ยังไม่วายสั่งเสียงเข้ม

                “รอแต่งงานกันก่อนนะวีณา ข้าวสารถึงค่อยกลายเป็นข้าวสุก เข้าใจมั้ย?” แม้ไม่มีเสียงตอบรับแต่เห็นวีณาพยักหน้าให้อย่างเอาเป็นเอาตายก็ทำให้กมลซึ่งห่วงและหวงน้องคนนี้มากคลายกังวลลงไปได้

                “แล้วพี่กมลจะไปไหน” เสียงหวานๆ เอ่ยถาม

                “ไปผลิตหลานให้เราไงยัยตัวยุ่ง ฮ่าๆๆ อ้อ ไม่ต้องมาส่งพี่นะดูแลแฟนเราไปเถอะ”

                มือหนาจับจูงร่างบางที่ยืนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ข้างๆ รอยยิ้มแหยๆ ส่งให้เจ้าของบ้านสายตาลุแก่โทษ วีณามองตามทั้งคู่ไปจนสุดสายตาสีหน้าครุ่นคิดถึงท่าทีที่แปลกไป

                พงศธรที่นอนฟังบทสนทนาของทั้งคู่อย่างเงียบๆ ลืมตาขึ้นมา จ้องมองหญิงสาวที่มีสีหน้าเคร่งขรึม ร่างหนาลุกขึ้นไปทิ้งตัวลงนั่งเบียดที่โซฟาตัวเดียวกันกับเธอ มือหนายกขึ้นลูบศีรษะทุยแผ่วเบา

                “คิดอะไรอยู่”

                “พี่พงศ์คะ วีณาว่าพี่กมลแปลกๆ ค่ะพี่” วีณาบอกเขาก่อนที่จะหันไปมองใบหน้าคมที่ประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ ส่งมาให้

                “รอดูต่อไป..ผมว่าคงจะมีเรื่องสนุกๆ ให้ลุ้นกันอีกแน่” พงศธรทิ้งท้าย

                “เรื่องสนุก...เหรอคะ” หญิงสาวยิ่งทำหน้าครุ่นคิดเข้าไปใหญ่ จนพงศธรเห็นแล้วอดใจไม่ไหวก้มลงหอมแก้มฟอดใหญ่ทันที แต่สายตาคมก็หันขวับไปทางประตูห้องเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติ

                “ใครน่ะ!



                ร่างโปร่งแสงยืนแอบอยู่หน้าประตู สีหน้าที่ซีดอยู่แล้วมองยังไงก็แลดูซีดกว่าเดิม กัลยาทำใจกล้าโผล่หน้าไปตอนที่เสียงไถ่ถามของพ่อเลี้ยงพงศธรดังขึ้น

                เอ่อ ยาเองค่ะพ่อเลี้ยง

                “มาทำอะไรตรงนี้” พงศธรถามขึ้นสายตาจ้องไปที่ร่างของผีสาวที่ยืนอยู่ที่ประตู

                วีณาที่พอจะเข้าใจอะไรบ้างเลาๆ เบิกตาโต เขยิบเข้าหาชายหนุ่มอย่างหาความอุ่นใจ แม้เธอจะเคยพบเจอกันบ้างแล้ว แต่ถ้าให้ข้องเกี่ยวกันโดยตรงกับวิญญาณวีณาขอเลือกเป็นสิ่งสุดท้ายก็แล้วกัน มือหนารั้งร่างบางเข้าหาตัวมากขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงการเบียดเข้าหา พงศธรโอบหญิงสาวเอาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะซักถามถึงสิ่งที่เขาคาดเอาไว้แล้วว่าจะต้องจัดการให้เสร็จอีกเรื่องหนึ่ง

                “ว่ายังไง มีเรื่องอะไรถึงได้มาหาถึงห้องนี้ บอกมาเลย” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยถามอีกครั้ง

                คือยามีเรื่องอยากให้พ่อเลี้ยงช่วยค่ะ กัลยาเอ่ยปากออกไป สายตาจ้องดูท่าทีของพ่อเลี้ยงเมื่อเห็นว่าเขายังคงตั้งใจฟังเธอจึงพูดต่อ

                ยาอยากหาครอบครัวของยาค่ะ ถ้าพ่อเลี้ยงจะกรุณา

                พงศธรนิ่งคิดอันที่จริงแล้วเรื่องพวกนี้โดยปกติแล้วเขาจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ดูทีท่าแล้วผีสาวตนนี้ถ้าไม่ได้ปลดบ่วงที่ติดค้างอยู่ในใจก็คงจะต้องเวียนว่ายอยู่ในภพภูมินี้ไปอีกนานแสนนาน เห็นทีถ้าไม่ใช่เขาช่วยเหลือแล้วจะเป็นใครได้

                “เขาว่ายังไงบ้างคะพี่พงศ์”

                “กัลยาขอความช่วยเหลือ อยากจะหาครอบครัวของเขาให้เจอน่ะ” พงศธรหันไปพูดกับวีณา แล้วเขาก็ต้องหัวเราะแทบตายกับความคิดของหญิงสาว

                “อ้าว งั้นเราก็ช่วยเขาไปสิคะพี่ เรื่องแค่นี้เองถ้ารู้ชื่อแซ่ก็คงสืบหาได้ไม่ยากหรอกค่ะ แต่มีข้อแม้นะกัลยา” วีณาหันไปทางประตูทิศเดียวกับที่พงศธรมองเมื่อสักครู่

                “เราจะช่วยก็ต่อเมื่อให้ถูกหวยก่อน” พูดจบเธอก็รีบหันไปหาลูกคู่ทันที “ดีมั้ยคะพี่พงศ์”

                ร่างโปร่งแสงรู้สึกว่าตนเองมีเหงื่อซึม ทั้งๆ ที่ตายไปนานแล้ว เหงื่ออะไรนั่นจะมีที่ไหนกันเล่า

                เอ่อ พ่อเลี้ยงคะ เรื่องหวย...

                “ฉันเข้าใจ เอาเถอะบอกชื่อแซ่และข้อมูลที่พอจะจำได้มาให้ก็พอ”

    .....................................................................................



1 ความคิดเห็น:

  1. Nong_nongka กล่าวว่า...

    ถ้าได้เลขเด็ดขอด้วยคน

    พี่กมลมีอะไรอยู่หรือเปล่า

แสดงความคิดเห็น