• พรหมเล่ห์รัก (Destiny...I fall in love) - ตอนที่ 20 _ 30%

    ก่อนอื่นขอสวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ หายไปนาน แอบไปเที่ยวมาค่ะ ^^

    ปีใหม่นี้ขอให้ทุกท่านพบเจอแต่ความสุขความเจริญ เฮงเฮงเฮงทุกคนเลยนะคะ





    ตอนที่ 20 _ 30 %


                จักรกฤษณ์ยังไม่ปล่อยมือออกจากเรียวแขนนวล สนุกที่ได้แกล้งเขามั่นใจอย่างที่สุด แต่ตอนที่เห็นคราบน้ำตาของคนตรงหน้าทำเอาความสนุกที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ลอยหายวับไปกับตา ไม่รู้สาเหตุ ไม่รู้ว่าทำไมใจมันหวิวๆ ไม่รื่นเริงเหมือนตอนแรกที่อีกฝ่ายยังด่าเขาให้แสบๆ คันๆ

                ใจจริงก็อยากจะบอกว่าเขากำลังทำอะไรหรือคิดอะไร แต่ก็นึกรู้ล่วงหน้าเลยว่าสิ่งที่คิดต้องโดนคนตรงหน้าขัดขวางอย่างแน่นอน ริมฝีปากยกขึ้นอย่างพึงใจเมื่อเห็นคนที่เมื่อสักครู่ยังเป็นคนเจ้าน้ำตาอยู่กลับมาแข็งแกร่งดังเดิม ประเดิมด้วยการมองจ้องเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้ออยู่ในตอนนี้

                เริ่มพิศวาสฉันแล้วละสิ คนหล่อก็แบบนี้ละนะ สาวๆ มักอดใจไม่ไหว

                ‘ไอ้-ชั่ว

                ‘โห ชมซะเน้นเชียว แต่ก็ขอบคุณครับที่ชม

                กิ่งกาญจน์เม้มริมฝีปากแน่นยับยั้งคำผรุสวาทเอาไว้เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามหนายิ่งกว่าคอนกรีตเสริมใยเหล็ก สายตาจ้องเขม็งไปยังมือหนาที่ยังคงจับต้นแขนเธอไม่ยอมปล่อย

                อย่านึกว่าฉันจะพิศวาสอะไรแกนักไอ้กิ่ง

                หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นจ้องตอบราวกับจะบอกว่า ถ้าไม่พิศวาสก็ให้ปล่อยแขนสักที แต่อีกฝ่ายกลับทำท่ายียวนกวนประสาทดึงเธอเข้าไปใกล้มากขึ้นกว่าเดิม

                อย่าเพิ่งตีโพยตีพายหรือแตกตื่นจะได้ไหม

                ‘แกคิดจะทำอะไรไอ้กฤษณ์’ กิ่งกาญจน์ถามขึ้นเสียงเครียดเมื่อรู้ว่าคนอย่างเพื่อนเธอจะต้องมีแผน

                ขอแค่ตอนนี้แกอย่าเพิ่งขัดขวาง ฉันจะขอบใจแกมาก

                ‘แต่...

                ‘ไม่มีแต่ ตอนนี้ยังไม่มีแต่ ฉันขอร้องว่ะ

                กิ่งกาญจน์มองเข้าไปในดวงตาคม ถอนหายใจอย่างทำใจลำบากก่อนจะพยักหน้าให้อย่างเสียมิได้

                น่ารักมากไอ้กิ่ง

                ร่างหนาโน้มเข้าหาร่างบอบบางที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม จมูกโด่งประทับเข้าที่พวงแก้มนวลจังเบ้อเร่อ เสียงหอมดังฟอดใหญ่ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะของคนตัวโตที่บัดนี้ทิ้งให้คนถูกหอมแก้มนั่งอยู่ที่เตียงตามลำพัง ตัวต้นเหตุรีบชิ่งเข้าไปหลบระเบิดในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว

                ไอ้กฤษณ์!!!’


                “เฮ้อ...” กิ่งกาญจน์อดถอนหายใจไม่ได้เมื่อคิดไปถึงสถานการณ์ในตอนนั้น ขาดทุน กดดัน อึดอัด โมโห สารพัดจะเก็บกดอยากจะอัดคนขึ้นมาตงิดๆ

                “ถอนหายใจยังกับยายแก่ มายืนทำอะไรตรงนี้จ๊ะที่รัก”

                สายตาคมมองคนตรงหน้าอย่างสอดรู้สอดเห็นเมื่อไม่เห็นร่างบางมีอาการผิดปกติไปจากเดิมก็เริ่มยียวนหญิงสาวทันที แต่ยังไม่ทันที่จะทำอะไรกิ่งกาญจน์ที่รับเครื่องดื่มมาจากลูกน้องก็ยื่นถาดให้ชายหนุ่ม

                “เอ้อ เอาไป ปากดีนักมีอะไรทำเผื่อจะได้สงบปากสงบคำซะบ้าง”

                ชายหนุ่มรับถาดแต่โดยดี “โถๆๆ ที่รักอารมณ์ไม่ดีก็ไม่บอก มามะ มาให้ป๋าจูบปลอบเอามั้ย เผื่ออารมณ์จะได้ดีขึ้น”

                “อะ ไอ้บ้ากฤษณ์ ไปไป๊ ยกไปได้แล้วอย่ามากวนโมโห น้องวีณารออยู่ในห้องคนเดียว รีบขึ้นไปได้แล้วมัวแต่โอ้เอ้อยู่ได้”

                “คุณหนูอารมณ์ร้าย” ยังไม่วายยั่วโมโห

                “เอ๊ะไอ้นี่” เงื้อฝ่ามือขึ้นขู่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังไม่หยุดเย้าแหย่

                “ฮ่าๆๆๆ”

                ชายหนุ่มที่ตอนนี้หันมาสนใจทางเดินมากกว่ายั่วโมโหเพื่อนสาว มือแข็งแรงประคองถาดเครื่องดื่มไปจนถึงห้องพักด้านหลังร้าน

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                ไม่รอให้ต้องเชื้อเชิญจักรกฤษณ์หมุนลูกบิดประตูเข้าไปเองทันที ส่วนอีกมือประคองถาดเอาไว้อย่างชำนาญก่อนจะวางมันไว้ที่โต๊ะรับแขก

                “น้ำครับ”

                “ขอบคุณค่ะพี่กฤษณ์ อ้าว...แล้วพี่กิ่งละคะ” วีณาไม่ได้ถามต่อเมื่อเห็นว่าจักรกฤษณ์เดินไปปิดประตูห้องลงทันที

                ชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งที่โซฟารับแขกสีดำสุดหรูซึ่งกว่าจะได้มาต้องรบราฆ่าฟันกับกิ่งกาญจน์ ฝ่าดงคำด่าของเพื่อนสาวที่จะเอาโซฟาสีขาวมาไว้ในห้องนี้แทน แต่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมและกลโกงบางอย่างทำให้เขาชนะได้เอาโซฟาสีโปรดมาไว้แทน และทุกครั้งที่กิ่งกาญจน์เข้ามาในห้องนี้จะต้องทำรุนแรงกับโซฟาตัวนี้ทุกทีไป

                “กิ่งดูลูกน้องอยู่น่ะ เดี๋ยวจะตามขึ้นมา” ชายหนุ่มกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบเครื่องดื่มตรงหน้าหลังจากที่ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นชัดๆ ว่าบนถาดมีอะไรบ้าง

                วีณาอาศัยความไวเอื้อมไปหยิบขวดน้ำดื่มที่มีไอน้ำเกาะอยู่โดยรอบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงจะเย็นชื่นใจขนาดไหน

                แกร๊ก

                เสียงฝาขวดน้ำถูกหมุนให้หลุดออกจากสลักแสดงตัวว่าไม่เคยถูกเปิดมาก่อน หญิงสาวยิ้มอย่างถูกใจก่อนจะเอื้อนเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าผู้ชายในห้องมองเธอด้วยสายตางุนงง

                “วันนี้ขอวีณาดื่มน้ำเปล่าแล้วกันค่ะพี่กฤษณ์ ไม่ค่อยสบายค่ะคงโหมเครื่องดื่มอย่างอื่นไม่ไหว แต่ใจจริงก็เสียดายนะคะ”

                “ไม่สบาย? เสียดาย?”

                “ค่ะพี่ ช่วงนี้ท้องไส้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” เธอฉีกยิ้มให้คนตรงหน้า “แต่ที่เสียดายก็เพราะว่าเจ้าของร้านเลี้ยงเครื่องดื่มทั้งทีกลับท้องไม่ดีซะนี่ เสียดายลาภปากที่หลุดลอยไปนะสิคะ ของฟรีนานๆ จะเวียนมาถึงสักที”

                จักรกฤษณ์หัวเราะในลำคออย่างชอบใจ ยื่นแก้วน้ำแข็งให้วีณาแต่ต้องเอากลับมาวางที่เดิมเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกระดกน้ำกินโดยไม่ใช้ทั้งหลอดและแน่นอนคงไม่ต้องการแก้วด้วยเป็นแน่ เขาเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอทำท่าราวกับกระหายน้ำเสียเหลือเกิน และแล้ว...

                “อิ่มแล้วค่ะ”

                “เอ่อ พี่ว่ามันก็น่าอิ่มอยู่หรอกนะวีณา น้ำขวดเล็กกินคราวเดียวหมดขวดเลย ยังไงมันก็น่าจะทำให้กินอะไรไม่ได้มากแล้วหล่ะ หิวน้ำก็ไม่บอกพี่จะได้ให้เขาเอามาให้หลายๆ ขวด”

                “ขวดเดียวก็พอแล้วค่ะ ไม่ไหวจริงๆ”

                เสียงตัดบทต่อด้วยการชวนคุยแบบมาราธอนของคนในห้อง ไม่ได้ทำให้สีหน้าครุ่นคิดของกิ่งกาญจน์ที่ยืนพิงประตูอยู่นั้นลดลงไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย



    *** จากนี้จะกลับมาอัพตามปกติค่ะ  ^^ *** 

1 ความคิดเห็น:

  1. Nong_nongka กล่าวว่า...

    รีบๆมาต่อ

แสดงความคิดเห็น