• พรหมเล่ห์รัก (Destiny...I fall in love) - ตอนที่ 20 _ 100%




    ตอนที่ 20 _ 100%


                เวลาสองนาฬิกาของวันใหม่

                “วันนี้นอนที่นี่ก็แล้วกัน ขี้เกียจไปส่งมันดึกแล้ว รู้จักสงสารคนที่ต้องขับรถกลับมาบ้างนะ” คนขับรถกิตติมศักดิ์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่ากิ่งกาญจน์ที่นั่งสัปหงกมาในรถลืมตาตื่นแล้ว

                “ไม่ ฉันจะกลับบ้าน”

                กิ่งกาญจน์ไม่ยอมอ่อนข้อ ตอนแรกเธอบอกแล้วว่าจะเป็นคนขับรถไปส่งวีณาเองที่บ้าน แต่จักรกฤษณ์ดันทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเต็มขั้น ขันอาสาขับรถไปส่งแถมยังลากเธอให้ต้องนั่งไปเป็นเพื่อนอีกด้วย ถ้าไม่ห่วงว่าหญิงสาวอีกคนจะเป็นอันตรายเพราะไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอจะทำอะไรกิ่งกาญจน์คงไม่ยอมไปไหนมาไหนโดยรถคันเดียวกันกับจักรกฤษณ์อีกเป็นแน่ ระวังไว้ก่อนเป็นดีที่สุด

                “เหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ฝันว่าได้กลับบ้านเอาแล้วกันนะยัยทอม” ไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาเปิดประตูลงจากรถวิ่งอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งลากคนดื้อแพ่งให้ลงมาจากรถแบบไม่ให้ตั้งตัว

                “อ๊าย! ปล่อยนะไอ้กฤษณ์ โอ๊ย!!

                เสียงโวยวายอย่างไม่เกรงใจใครปลุกให้คนในบ้านตื่นขึ้นมา บ้างชะโงกหน้าดู บ้างก็ชะเง้อชะแงแลดูเนื่องจากไม่กล้ายุ่งเรื่องของเจ้านาย คู่นี้ทะเลาะกันมาตลอดจนคนในบ้านชินกันหมดแล้ว ร่างหนาแบกร่างบางขึ้นบ่ามือก็พาดเข้าที่ก้นนุ่มของอีกฝ่าย กิ่งกาญจน์ก็ไม่ยอมแพ้ถ้าจักรกฤษณ์เป็นกระท้อนก็คงน่วมไปทั้งลูกอย่างไม่ต้องสงสัย

                “โอ๊ยยัยทอม ทุบมาได้เจ็บนะเนี่ย”

                จักรกฤษณ์โวยหลังจากที่พาคนบนบ่ามาถึงห้องนอนของแขกเรียบร้อยแล้ว กิ่งกาญจน์ดีดตัวขึ้นจากเตียงแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งลงที่เตียงด้วยเหมือนกัน

                “ไอ้..”

                “ชอบมั้ยล่ะ แม่ฉันเพิ่งสั่งให้เปลี่ยนผ้าม่านห้องนี้ให้เป็นสีขาว”

                “อ้อ...เอ่อ ก็สวยดีนะ คุณป้าเลือกเก่งจังเลย อ๊ะ!!

                ตอนนี้คนพูดไม่ได้สนใจคู่กรณีเลยแม้แต่น้อย กลับหันไปสนใจผ้าม่านสีขาวพวกนั้น มือเรียวลูบไล้อย่างหลงใหล ตาเป็นประกายมุมปากยกขึ้นอย่างชอบใจเป็นที่สุด สายตาจดจ้องอยู่ที่ผืนผ้าก่อนจะเลื่อนไปสำรวจรอบๆ ห้องที่เธอเคยได้เข้ามาพักแค่เพียงครั้งเดียวซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง

                “เปลี่ยนไปละสิ ห้องน่ะ” จักรกฤษณ์ถามขึ้นหลังจากเอนกายนอนลงบนเตียงนุ่มเรียบร้อยแล้ว

                “ใช่ ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไปนะ เฮ้ย!! แกออกไปเลยไอ้กฤษณ์ ห้องแกอยู่ข้างๆ นี่เอง อย่ามามั่ว”

                จากอารมณ์ที่จะคุยเรื่องข้าวของในห้อง กิ่งกาญจน์หันมาจัดการลูกเจ้าของบ้านที่ถือโอกาสนอนบนเตียงแขกอย่างเธอเรียบร้อยแล้ว แถมทำท่าเคลิ้มเสียเต็มประดา

                “อะไรวะ แค่นี้ก็งก” เขาโวยแต่ก็ยอมลุกจากเตียงหนานุ่มโดยดี ตาคมเหลือบมองร่างบางที่ยืนกอดอกมองเขาหน้าบึ้ง

                “ผ้าขนหนูกับชุดนอนอยู่ในตู้เสื้อผ้า อาบน้ำแล้วก็นอนได้แล้วเดี๋ยวจะไม่สบาย”

                “เอ่อ..อืม”

                ชายหนุ่มไม่อยู่กวนอารมณ์เช่นเคยเนื่องจากเห็นว่าสมควรแก่เวลาพักผ่อนแล้ว เขาเดินเปิดประตูออกมานอกห้องอย่างรวดเร็ว กิ่งกาญจน์เดินไปหมายจะใส่กลอนประตูเพื่อความปลอดภัย แล้วประตูก็เปิดออกอีกครั้ง

                “ลืมบอกไป” จักรกฤษณ์โผล่หน้ามาให้เห็น ก่อนจะพูดด้วยเสียงยียวน “เครื่องในของเธอน่ะ แม่ฉันก็ซื้อเตรียมไว้ให้ อยู่ในตู้นั่นแหละ ซักแล้วไม่ต้องกลัวหยิบใช้เลย”

                “เอ่อ ขอบใจ” กิ่งกาญจน์เอามือดันประตูบอกเป็นนัยว่าให้รีบเอาหน้าออกไปได้แล้ว

                “กิ่ง” เสียงทุ้มร้องเรียกหลังจากยอมปล่อยให้หญิงสาวปิดประตูแล้ว

                “อะไรอีกเล่าไอ้กฤษณ์” เธอที่กำลังเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อสำรวจตะโกนตอบ

                “ฉันชอบสีดำนะ ฮ่าๆๆๆ”

                “สีดำ? อะ ไอ้บ้ากฤษณ์!!! หนอย” กิ่งกาญจน์หน้าแดงเมื่อเห็นชุดชั้นในที่เตรียมไว้กว่าครึ่งเป็นสีดำ



                เสียงถอนหายใจดังขึ้นเมื่อวีณาเปิดประตูห้องนอน หญิงสาววางกระเป๋าไว้บนที่นอน ถอดเสื้อคลุมแขนยาวสีเทาด้วยความไวแสงวางทับบนกระเป๋า ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำร่างบางยืนอยู่หน้ากระจกบ้วนท่อนไม้ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยลงบนฝ่ามือ วีณาเปิดน้ำเพื่อล้างน้ำลายออกจากมันด้วยความชำนาญ ล้างเสร็จก็เอาผ้าเช็ดจนมั่นใจว่าแห้งแน่แล้วจึงวางท่อนไม้นั้นลงในโหลแก้วขนาดเล็กมีฝาปิดแน่นหนา ด้านในมีสำลีรองเอาไว้และก็ยังมีท่อนไม้ขนาดเท่าๆ กันอยู่อีกเก้าอัน หน้าขวดโหลมีสติ๊กเกอร์เขียนแปะแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้อย่างชัดเจน

                รางจืด อันละ 300 จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง / กระติกคนงาม

                แน่นอนในโหลของเธอมีเก้าอันรวมในมืออีกหนึ่งแสดงว่าต้องเสียเงินไปสามพันบาทถ้วน กับน้องกับนุ่งก็ไม่เว้นวีณายังจำได้วันที่เธอได้โหลรางจืดโหลนี้มา

                ซื้อไว้ไม่เสียใจแน่วีณา พี่รับรอง เวลาไปไหนมาไหนจะได้ไม่ต้องโดนมอมเหล้าไงน้องรัก

                ‘โห พี่กระติก หื่นๆ อย่างวีณา กลัวจะไปปล้ำเขาละสิไม่ว่าไม่ต้องกลัวใครมามอมเหล้าวีณาหรอกน่า เล่นแง่พอเป็นพิธีก่อนจะบอกถึงสาระสำคัญ

                ว่าแต่..วีณาขออันนึงนะพี่กระติก ฟรีน่ะฟรี

                ‘ไม่ได้จ้ะน้องสาวของคนงาม กระติกโปรยยิ้มให้หวานหยดย้อย

                งั้นวีณาซื้อหนึ่งอัน สามระ...

                ‘พี่ขายยกโหล หนึ่งโหลมีสิบอัน สามพันบาทถ้วนจ้ะน้องรัก

                แล้ววีณาก็ได้ว่านรางจืดมาด้วยประการฉะนี้แล ต่อให้อมไปจนปากเปื่อย อมไปยันลูกบวช หรืออมไปยันแก่ตายก็คงไม่มีทางใช้หมดแน่ๆ ส่งวีณามาเกิด ไหนจะส่งพี่กระติกมาปราบวีณาด้วยนี่ โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ตั้งแต่เล็กยันโตเธอไม่เคยเถียงพี่สาวคนนี้ชนะสักครั้ง

                “รอดตัวมาได้อีกวันนะเรา” มือที่เลื้อยเป็นปลาหมึกยุบยับของจักรกฤษณ์ทำให้วีณาต้องตั้งรับอย่างคนโง่งม ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาถึงภัยที่จะเกิด

                “จะมิตรหรือศัตรูก็วัดกันคราวนี้ละนะคุณจักรกฤษณ์”

                ตากลมโตจ้องมองตอบกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น แต่แล้วก็ต้องรีบวิ่งออกจากห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากในกระเป๋า

                “นึกว่ามีคนโทรมา ที่ไหนได้ข้อความเข้านี่เอง” วีณากดเปิดข้อความขึ้นอ่านทันทีเมื่อเห็นว่าใครคือผู้ส่ง

                คิดถึง อยากโทรหาแต่กลัวว่าถ้าโทรแล้ว...ได้ยินเสียงแล้วจะทำให้อยากไปหามากยิ่งขึ้น ตอนนี้กำลังยุ่งกับการเก็บลำไยและมะม่วงบางรุ่นที่ออกมา หวังว่ายัยตัวยุ่งที่หนีเที่ยวจะระมัดระวังตัวเองด้วยนะ เป็นห่วง
      
                “เป็นห่วงเหรอ? อ๊าย! น่ารัก วันนี้คนหล่อน่ารักนะเนี่ย” วีณายิ้มออกมาลืมเรื่องเครียดต่างๆ ได้ชั่วขณะ

                “เอ..แล้วรู้ได้ไงหว่าเราหนีเที่ยว”

                ผีสาวกัลยาสะดุ้งสุดตัวก่อนจะจดๆ จ้องๆ วีณาเพื่อให้แน่ใจว่าหญิงสาวคงไม่ได้เกิดเห็นตัวเธอขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอีกรอบ

                ดูสิเนี่ย เราเลยต้องกลายเป็นวัวสันหลังหวะ เพราะพ่อเลี้ยงทีเดียวทำเอาเราต้องทำหน้าที่เป็นหน่วยสืบราชการร่วมกับพี่โหงพรายไปด้วย

                ตั้งแต่ที่วีณาออกไปเที่ยวข้างนอกผีสาวก็ไปรายงานความเคลื่อนไหวและรายละเอียดให้นางโหงพรายรับทราบข้อมูล ก่อนที่นางโหงพรายจะทำหน้าที่สายสืบตามไปถึงร้านที่วีณาไปเที่ยวกับกลุ่มของนายจักรกฤษณ์กัน ถ้าตามกันขนาดนี้ทำไมพ่อเลี้ยงสุดหล่อของวีณาจะไม่รู้ละว่าไปเที่ยวที่ไหนมา ขี้คร้านจะรู้ไปเสียทุกเรื่องเสียมากกว่า ใจจริงกัลยานั้นห่วงท่าทีที่นายจักรกฤษณ์มีให้วีณา ท่าทีที่ดูเหมือนแมวเห็นปลาย่างพร้อมที่จะกระโจนเข้ามาฉกไปกินได้เสมอแม้มันจะไม่สุกก็ตาม และก็หวังว่าพ่อเลี้ยงพงศธรจะจัดการธุระงานการให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็วก่อนที่จะลงมากรุงเทพฯ ได้เจอกับวีณาเสียที

                ผีสาวเอนหลังอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ของวีณา มองเจ้าของห้องเดินฮัมเพลงไปมาอย่างสบายอารมณ์ ไม่ได้รับรู้เลยว่าโดนคาดโทษจากคนที่ส่งข้อความหวานๆ มาให้ไปตั้งเท่าไรแล้ว เสียงปิดประตูห้องน้ำตามมาด้วยเสียงน้ำกระทบพื้นกระเบื้องห้องน้ำ เพลงตามสมัยนิยายลอยออกมานอกห้องน้ำเป็นระยะๆ เรียกรอยยิ้มให้กัลยาได้ไม่ใช่น้อย

                ดวงตากลมเหม่อมองไปอย่างไร้จุดหมาย เมื่อความเงียบเข้ามาเยือน ไม่มีผู้คนอยู่รอบกาย ไม่มีคนอื่นให้ห่วงหา ผีสาวก็ยังคงคิดถึง...บ้าน ป่านนี้พ่อและพี่สาวของเธอจะเป็นอย่างไร ตระกูลของเธอจะมีลูกมีหลานสืบเชื้อสายไปทางไหนกันบ้าง ตระกูลคหบดีผู้มั่งคั่งไม่น่าจะตามหาได้ยาก ก็หวังแค่ว่าการที่ต้องสวมบทนักสืบจำเป็น จะสร้างความพึงพอใจให้พ่อเลี้ยงได้ชมชอบและเมตตา

                แล้วสักวัน...สักวันเธอจะขอร้องให้พ่อเลี้ยงพงศธรช่วยตามหาครอบครัว ครอบครัวที่เธอจากไปไกลตาอย่างที่ไม่ได้แก้ไขความเข้าใจผิดใดๆ เลย

                พ่อคะ พี่คะ ยาคิดถึงค่ะ ถ้ายังคงมีบุญวาสนาก็ขอให้ยาได้แก้ไขความเข้าใจผิดให้ทุกคนเข้าใจด้วยนะคะ

                เหมือนแสงรอบกายของผีสาวจะดูหมองไปถนัดตา ราวกับว่าจะรับรู้ถึงความเศร้าระทมที่ทนเก็บเอาไว้ภายในมาเนิ่นนาน

                วีณาที่ตอนนี้อาบน้ำเสร็จแล้ว แต่งตัวด้วยชุดนอนตัวเก่งกระโปรงนอนสีขาวเนื้อเนียนบางเบา มือบางที่กำลังจับผ้าขนหนูขยี้บนผมยาวเปียกหมาดต้องหยุดชะงัก หยิบโทรศัพท์เครื่องงามขึ้นมากดอะไรยุกยิกด้วยความรวดเร็ว แล้วเสียงหัวเราะน้อยๆ ก็ตามมา ผีสาวกัลยาว่องไวพอหลังจากที่เรียนรู้ว่าอยู่ใกล้วีณานั้นเธอต้องว่องไวที่สุดถึงจะทันและได้เห็นเรื่องสนุกๆ

                ข้อความเหมือนพี่พงศ์ทุกอย่าง ยกเว้นไม่ต้องไปเก็บลำไยกับมะม่วง แค่วุ่นวายกับเอกสารและผู้คนเท่านั้นเองค่ะ อ้อ อีกอย่างที่ไม่เหมือน ยัยตัวยุ่งคนนี้หวังว่าพ่อเลี้ยงสุดหล่อจะไม่หนีเที่ยวนะคะ

                เกือบไม่ทันได้เห็นแต่ก็ไม่เกินความสามารถของเธอไปได้ อ่านจบผีสาวกัลยาก็ได้แต่ส่ายศีรษะไปมา


                ผู้หญิงสมัยนี้ก๋ากั่นจริงๆ เชียว





    ***ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ ^^ ***



1 ความคิดเห็น:

  1. Nong_nongka กล่าวว่า...

    เฮียต้องการคนเก็บมะม่วงกับลำใยไหม จะได้ช่วยเก็บ

แสดงความคิดเห็น